อภินิหารเทพปฐมภพ ภาคไข่มุกมังกรศิลา - นิยาย อภินิหารเทพปฐมภพ ภาคไข่มุกมังกรศิลา : Dek-D.com - Writer
×

    อภินิหารเทพปฐมภพ ภาคไข่มุกมังกรศิลา

    ผู้เข้าชมรวม

    5,033

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    66

    ผู้เข้าชมรวม


    5.03K

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    35
    จำนวนตอน :  69 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  15 มิ.ย. 63 / 12:59 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    (Kibin’s  secret  journal  : The  Marvel  of  The Creator God )
    บันทึกลับของ KIBIN : อภินิหารเทพปฐมภพ  ภาคเทพปฐมภพ ตอนไข่มุกมังกรศิลา
                      ==========================

    ณ โลกใบสีน้ำเงิน ในจักรวาลที่ 9 เอกสุริยะภพ ที่ทั่วทั้งโลกกำลังเกิดการระบาดของโรคไวรัสอย่างต่อเนื่อง เริ่มมีผู้ป่วยหลายคนล้มตาย ประเทศมหาอำนาจหลายประเทศเริ่มเป็นกังกล
    ในโลกที่เราท่านยังคงใช้เวลาชีวิตอยู่ในสงครามต่างสายพันธุ์นี้...KIBIN ขอนำทุกท่านไม่ว่าจะอยู่แห่งใดในโลกสีน้ำเงินใบนี้  ได้รับรู้เรื่องราวในอีกแปดภพจักรวาล ในบันทึกของ KIBIN
     
    .....................................
     

    “มหาเทพปฐมภพที่กำเนิดจากความว่างเปล่า รู้ว่าในกาลต่อไปข้างหน้า หลังมหาเทพปฐมภพกลับสู่ความว่างเปล่า จักรวาลทั้ง 9 จะประสบกับมหัตภัยครั้งร้ายแรง ที่จะทำลายไปทั้ง 9 จักรวาล มหาเทพปฐมภพจึงเหลือ“ดวงจุติอวตาร”เอาไว้เพื่อกอบกู้จักรวาลทั้ง 9 จากมหัตภัย โดยให้กำเนิดเทพหยินหยางเพื่อให้คอยช่วยเหลือดวงจุติอวตารนั้น”
     
    .....................................
     
     “ เทพปฐมภพเมื่อได้ให้กำเนิด 9 จักรวาล และให้กำเนิดเทพหยินหยางแล้ว ก็แยกกายออกเป็น

     “ ผลึกฟ้านิรันตร ” อันเป็นตัวแทนของดวงหทัยอันเป็นอมตะ  

    “ เกราะภูษาปีกสวรร ค์” อันเป็นตัวแทนของวรกายอันแข็งแกร่ง  

    “ คฑาเทพหยกเย็น ” อันเป็นตัวแทนของหัตถ์ซ้ายที่ก่อกำเนิดสรรพสิ่ง  

    “ ดาบเพลิงโลกัณฑ์บรรลัย ” อันเป็นตัวแทนของหัตถ์ขวาที่ทำลายสรรพสิ่ง  

    “ ศรเคลื่อนปรภูมิ ” อันเป็นตัวแทนของบาทแห่งการเปลี่ยนและกำหนดชะตาชีวิต  

    “ดวงจุติอวตาร” อันเป็นตัวแทนของความหวังที่จะกอบกู้จักรวาลทั้งเก้าจากมหัตภัย 

    สุดท้าย...เทพปฐมภพก็กลับสู่ความว่างเปล่า...อีกครั้ง
     
    .....................................
     
              “เทพหยินหยางที่มหาเทพปฐมภพให้กำเนิด องค์หนึ่งเป็นเทพธิดากายขาวดุจหยก เรียกว่า “เทพธิดาหยกขาว ” เป็นเทพแห่งการสรรค์สร้าง  อีกองค์หนึ่งเป็นเทพมารกายดำดุจนิล เรียกว่า “เทพอสูรกาฬ” เป็นเทพแห่งการทำลายล้าง แต่ด้วยธาตุก่อกำเนิดที่แตกต่างกัน  เทพหยินหยางกลับต่อสู้กันเกิดเป็นสงครามเทพหลายหมื่นปี  
     
     
              ก่อนศัสตราเทพและดวงจุติอวตารจะกระจายล่องลอยไปในจักรวาลทั้งเก้า เทพธิดาหยกขาวได้ครอบครอง “ผลึกฟ้านิรันตร” ส่วนเทพอสูรกาฬได้ครอบครอง  “ศรเคลื่อนปรภูมิ”  ในการต่อสู้ของเทพหยินหยางต่างเทพต่างไม่สามารถเอาชัยกันได้ เทพธิดาหยกขาวจึงใช้ “ ผลึกฟ้านิรันตร ” ผนึกดวงจิตของเทพอสูรกาฬไว้ใน“ผลึกฟ้านิรันตร” และนำไปเก็บรักษาไว้ในโลกแดนฟ้าเทอมินัสที่อยู่ในจักรวาลที่ 6 แต่ศรเคลื่อนปรภูมิได้นำพาดวงจิตของเทพอสูรกาฬหนีไปอยู่ในโลกแดนฟ้าไซเบอร์ตรอนในจักรวาลที่ 3  ”
     
     
    “ส่วนดวงจุติอวตารของมหาเทพปฐมภพ ก็ไปจุติในโลกที่เรียกว่า แดนฟ้าเมฆินทร์ ในจักรวาลที่ 9 พร้อมกับเกราะภูษาปีกสวรรค์ ที่ไปรวมร่างกับมังกรศิลาโบราณ จนกลายเป็นมังกรฟ้าสวรรค์ และได้คายไข่มุกมังกรทิ้งไว้ 5 ลูก ที่ก่อความวุ่นวายไปทั่วแดนฟ้าเมฆินทร์  ก่อนโผบินหายไปในสวรรค์บนโลกแห่งนั้น ”
     
    .....................................

    เชิญทุกท่านติดตามเรื่องราวในบันทึกลับของKIBIN ...ด้วยจิตคารวะ

    ...KIBIN...
    24/03/2020
    โลกใบสีน้ำเงิน

    1. ภาคเทพปฐมภพ ตอนไข่มุกมังกรศิลาโบราณ

        (เกิดบนโลกแดนฟ้าเมฆินทร์ จักรวาลที่ 9 ที่เป็นเอกสุริยะภพ)


    มังกรศิลาโบราณที่เป็นมังกรฟ้าที่หนีลงมาท่องเที่ยวในโลกมนุษย์ แล้วเผลอนอนหลับไปนานหมื่นปี จนร่างกลายเป็นก้อนหินศิลา


    ต่อมาจอมช่างลู่ไป๋ที่เป็นบรรพบุรุษของป้อมปราการยุทธ์มังกรบิน อุทิศเวลาสิบปี สลักก้อนหินศิลา เป็นมังกรศิลาที่มีเศียร ลำตัว ดวงตา กรงเล็บ ยกเว้นส่วนปีกมังกรฟ้า กลับสลักไม่สำเร็จ ไม่สามารถคืนร่างเป็นมังกรฟ้าได้ แต่เมื่อเกราะภูษาปีกสวรรค์รวมร่างกับมังกรศิลาโบราณ ทำให้มังกรศิลาโบราณมีชีวิตและบินกลับสวรรค์ไป


    ก่อนไปได้คายไข่มุกมังกรออกมา  5 ลูก เรียกว่า ไข่มุกมังกรศิลาโบราณ ที่มีฤทธิ์ 1.ต่อต้าน/ควบคุมไฟ  2.ต่อต้าน/สลายพิษ  3.ควบคุมลม 4.ควบคุม/ต้านความเย็น  5.แสง(หายตัว) ทำให้โลกแดนฟ้าเมฆินทร์ปั่นป่วน


    ต่อมาดวงจิตเทพปฐมภพอวตารมาเกิดในโลกใบนี้ เป็นมนุษย์ ที่ซื่อสัตย์ มั่นคง เที่ยงธรรม ที่ต้องต่อสู้กับผู้ดีจอมปลอม จอมมาร มารพิษ  จอมเวท  ภูตพราย ชนเผ่าลึกลับ เงื่อนงำต่างๆ  ไข่มุกมังกรศิลา 5 ลูก


    จุดเด่นของเรื่องจะเน้นโครงเรื่องที่ใหญ่ มีเงื่อนงำ มีตัวเด่นๆ ออกมาจะแย่งซีนพระเอกเยอะ

    (เรื่องนี้ผู้เขียนคุมพลังสเกลให้ต่ำกว่าภาคอื่น อาศัยผูกเรื่องให้ซับซ้อน ของวิเศษ พิษสยองนานาชนิด(พอได้กรี้ดเป็นระยะๆ) พยายามสร้างให้มีเหตุผลรองรับ ไม่ไร้สาระลวงโลกจนเกินไป)


    2. ภาคเทพธิดาหยกขาว  ตอนจักรวรรดิเทอมินอลที่ 21

    (เกิดในโลกแดนฟ้าเทอมินัส ในจักรวาลที่ 5  ที่เป็นทวิสุริยะภพ)

    ซึ่งภาคนี้จะเป็นดินแดนเทพนิยาย ทั้งพวกยักษ์ไซคลอปส์  อมนุษย์ มังกร แดนเทพสมุทร ใครว่าเก่งตัวเอกของเราเก่งกว่าเพราะได้เปรียบ 1X2)


    เริ่มที่ฉากต่อสู้ของเทพธิดาหยกขาวและเทพอสูรกาฬ


    เทพธิดาหยกขาวอาศัยจังหวะที่เทพอสูรกาฬ เผลอดึงดูดดวงจิตธาตุกักไว้ในผลึกฟ้านิรันตร


    แล้วนำไปเก็บไว้ในโลกมนุษย์ ในชั้นใต้ดินของจักรวรรดิเทอมินอล และมอบพลังบางส่วนให้เผ่าพันธุ์มนุษย์ไว้ช่วยพิทักษ์ผลึกฟ้านิรันตรไว้ 


    ในภาคนี้จะมีการสืบทอดสายเลือดของเทพธิดาหยกที่บริสุทธิ์ตลอดกาล ก็คือ การอวตาร ไปเกิดใหม่ (เหมือนพระธิเบต) เมื่ออายุครับ 20 ปี ก็จะกลับมาปกครองจักรวรรดิเทอมินอลอีกครั้ง เป็นเช่นนี้วนเวียนมาจนมาถึงจักรวรรดิเทอมินอลที่ 21 ในภาคนี้พอดี


    โดยภาคนี้เทพธิดาหยกขาวอวตารไปเกิดในเผ่าพันธุ์ที่กลายร่างได้ และมีดวงจิตดวงที่2 มาอาศัยในร่าง(ในผลึกฟ้านิรันตร) แอบค่อยช่วยเหลือ ทำให้เทพธิดาหยกขาว เมื่อจำเป็นสามารถกลายร่างเป็นบุรุษได้ ส่วนเทพอสูรกาฬของเราหายสาญสูญวาร์ปไปอยู่ในโลกแดนฟ้าไซเบอร์ตรอน จักรวาลที่ 3 ก่อนที่จะ...


     3. ภาคเทพอสูรกาฬ ตอนเทพจักรกลสงคราม 

    (เกิดในโลกแเดนฟ้าไซเบอร์ตรอน จักรวาลที่ 3 เป็นตรีสุริยะภพ)


    ภาคนี้เกิดบนโลกอนาคตที่มีดาวหลายดวงอยู่ใกล้กัน จึงมีหลายเผ่าพันธุ์ทั้ง แดร็กคิวล่า จักรกลสงคราม มนุษย์ต่างดาว มนุษย์พลังพิเศษ หุ่นยนต์ยักษ์โลกอนาคต 


    ดวงจิตเทพอสูรกาฬ มาอยู่ในจีหลง สมาชิกของแก๊ง CDG (แก๊งมังกรดำ) ที่ถูกสะกดวิญญาณไปชั่วนิรันทร์ แต่รอดมาได้ ภายหลังเชื่อมต่อกับ “ดาบเพลิงโลกัณฑ์บรรลัย”   ภาคนี้พระเอกเรา มีผู้ช่วย(CDG) ไม่งั้นเอาตัวร้ายไม่อยู่ เพราต้องสู้กับตัวร้ายที่มีเทคโนโลยี  โคตรแดร็กคิวล่า จักรกลสงคราม มนุษย์ต่างดาว มนุษย์พลังพิเศษ หุ่นยนต์ยักษ์โลกอนาคต พระเอกจอมขี้โกงของเรา อาศัยศรเคลื่อนปรภูมิ” (ลูกธนูสีเงินที่หาง(มีกระดิ่งที่ไม่ดัง))ที่เทพอสูรกาฬ เอาไว้เหยียบ(เหมือนสเก็ตบอร์ด) เหาะลอยได้  และวาร์ป (เมื่อกระดิ่งดัง) ข้ามโลกมิติต่างๆได้เมื่อถึงเวลาจำเป็นมาถึง


    ภาค......    ตอนมหาอสูรบรรพกาล

    (ภาคที่ยังไม่ได้เขียน)

    “คฑาเทพหยกเย็น” ไปอยู่กับมหาอสูรบรรพกาล ในแดนลึกลับ ก่อนจะตามไปฆ่ามังกรฟ้าที่มี“เกราะภูษาปีกสวรรค์” และพยายามรวบรวมศัสตราเทพทั้งหมดและฆ่าทุกคนที่จะเป็นภัยต่อการคงอยู่ของตน


    …………………………………………..

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น